ผู้บริหาร บลจ.กรุงไทย มองดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้จะมีโอกาสขึ้นไปที่ระดับ 1,200 จุด มองกลุ่มพลังงาน อุปโภคบริโภค รวมถึงธนาคาร ยังมีพื้นฐานดี และน่าลงทุน ซึ่งนายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนในหุ้นไทยช่วงปี 2555 ดัชนีน่าจะอยู่ที่ระดับ 1,200 จุด เนื่องจากมีผลพวงมาจากภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ที่ส่งผลให้เกิดภาวการณ์ชะลอการลงทุนไปค่อนข้างมาก ดังนั้น ช่วงปีนี้จึงเป็นปีที่จะมีการฟื้นตัวในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการลงทุนในด้านต่างๆ

ส่วนปัจจัยสนับสนุนจากการเดินหน้าทำการผลิตสินค้าของโรงงานอุตสาหกรรมที่ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ มีการสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อทดแทนเครื่องจักรที่จมน้ำได้รับความเสียหาย รวมไปถึงการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ประสบภัยน้ำท่วม

ด้านแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีโอกาสที่จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลง เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจัยบวกดังกล่าวเหล่านี้ จะเป็นตัวช่วยหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปีหน้าให้เติบโตอยู่ที่ 5% หลังจากช่วงปีนี้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ได้ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 1.1% แทน

“ตลาดทุนไทยยังคงได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ส่วนปัจจัยกระตุ้นการลงทุนอีกปัจจัยที่น่าจับตามอง คือ ปัญหาของประเทศในแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา ที่มีแนวโน้มไม่ค่อยดีนักต่อเนื่องจากช่วงปีนี้ ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศมีโอกาสที่จะไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้นมีมาก แม้ว่าจะประเมินเม็ดเงินลงทุนดังกล่าวที่จะไหลเข้ามาไม่ได้ในขณะนี้ก็ตาม”

สำหรับกลุ่มหลักทรัพย์ที่เป็นดาวเด่นในช่วงปีหน้า มองว่ายังคงเป็นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มพลังงาน กลุ่มอุปโภคและบริโภค และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง นายสมชัย กล่าวว่า ยอดขายกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ของบริษัทช่วงปี 2554 ขายได้ประมาณ 3,500 ล้านบาท แม้ว่ายอดขายดังกล่าวเมื่อเทียบกับยอดขายในช่วงปี 2553 จะอยู่ในระดับที่ดีกว่ามาก โดยช่วงปี 2553 บริษัทขายกองทุน LTF และ RMF ได้ 2,000 ล้านบาท

ส่วนยอดขายกองทุนดังกล่าวในช่วงปีที่ผ่านมา แม้ว่าบริษัทจะขายได้สูงกว่าช่วงปีก่อนหน้า แต่ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา เกิดภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ ส่งผลให้ความสามารถในการเข้าลงทุนของนักลงทุนเกิดการชะลอตัวลง

“จะเห็นได้ว่าช่วงดังกล่าวจะมียอดคำสั่งลงทุนตกค้างจำนวนมาก ที่สำคัญ ในส่วนของการสั่งซื้อผ่านบัตรเครดิตของบริษัทบัตรเครดิตกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ที่บริษัทเป็นพันธมิตรนั้น เกิดระบบขัดข้องในการสั่งจ่ายบัตรผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ทำให้นักลงทุนที่ต้องการลงทุนโดยซื้อผ่านบัตรเครดิตนี้ไม่ได้”